บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3
บันทึกการเรียนรู้ครั้งที 3 วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13:30 - 17:30 น.
......................................START........................................
Science Experiences Management for Early Childhood
( การจัดประสบการณ์การทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย )
ในวันนี้นั้นไม่มีการเรียนการสอน แต่! อาจารย์ได้มอบหมายงานให้แก่นักศึกษา โดยให้นักศึกษานั้นไปสรุปความรู้จากใบความรู้ที่อาจารย์ได้ฝากตัวแทนนักศึกษามา
ความรู้ที่ได้รับ
รูปแบบการเรียนรู้เด็กปฐมวัย
- คุณลักษณะตามวัยของเด็กอายุ 3-5 ปี ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พศ. 2546 มีดังนี้
เด็กอายุ 3 ปี
พัฒนาการด้านร่างกาย
- วิ่งและหยุดโดยไม่ล้ม
- รับลูปลอกด้วยมือและลำตัว
- เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้
- ใช้กรรไกรมือเดียได้
- วาดและระบายสีอิสระได้
พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
- แสดงอารมณ์ตามความรู้สึก
- ชอบที่จะทำให้ผู็ใหญ่พอใจและได้คำติชม
- กลัวการพลัดพรากจากผู้เลี้ยงดูหรือผู็ชิดใกล้น้อยลง
พัฒนาด้านสังคม
- รับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง
- ชอบเล่นแบบคู่ขนาน (เล่นของเล่นชนิดเดียวกันแต่ต่างตนต่างเล่น)
- เล่นสมมติได้
- รู้จักการรอคอย
พัฒนาการด้านสติปัญญา
- สำรวจสิ่งต่างๆที่เหมือนกันและต่างกันได้
- บอกชื่อตนเองได้
- ขอความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาได้
- สนทนาโต้ตอบ / เล่าเรื่องด้วยประโยคสั้นๆ ได้
- สนใจนิทานและเรื่องราวต่างๆ
- ร้องเพลง ท่องคำกลอน คำคล้องจองง่ายๆ และแสดงท่าทางเลียนแบบได้
- รู้จักใช้คำถาม (อะไร)
- สร้างผลงานตามความคิดของตนเองอย่างง่ายๆ
- อยากรู้อยากเห็นทุกอย่างรอบตัว
............................................................................................................
เด็กอายุ 4 ปี
พัฒนาการด้านรางกาย
- กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้
- รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสอง
- เดินขึ้นลงบันไดสลับเข้าได้
- ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้
- กระฉับกระเฉงไม่ชอบอยู่เฉย
พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
- แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับบางสถานการณ์
- เริ่มรู้จักชื่นชมความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น
- ชอบท่าทายผู้ใหญ่
- ต้องการให้มีคนฟังและสนใจ
พัฒนาการด้านสังคม
- แต่งตัวได้ด้วยตนเองและไปห้องส้วมได้ด้วยตนเอง
- เล่นร่วมกับผู็อื่นได้รอคอยตามลำดับก่อนหลังได้
- แบ่งของให้คนอื่น
- เก็บของเล่นเข้าที่ได้
พัฒนาการด้านสติปัญญา
- จำแนกสิ่งต่างๆ ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้
- บอกชื่อและนามสกุลของตนเองได้
- พยายามแก้ปัญหาด้วยตนเองหลังจากได้รับคำชี้แนะ
- สนทนาตอบโต้ / เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่องได้
- สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น
- รู้จักการถามคำถาม (ทำไม)
............................................................................................................
เด็กอายุ 5 ปี
พัฒนาการด้านร่างกาย
- กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้
- รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ด้วยทั้ง 2 มือ
- เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้อย่างคล่องแคล่ว
- เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
- ตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้งที่กำหนดได้
- ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กได้ดี เช่น ติดกระดุม ผูกเชือกรองเท้า เป็นต้น
- ยืดตัวคล่องแคล่ว
พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
- แสดงอารมณ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสมกับบางสถานการณ์
- ชื่นชมความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น
- ยึดตนเองเป็นศูนย์กลางน้อยลง
พัฒนาการด้านสังคม
- ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
- เล่นหรือทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกับผู้อื่นได้
- พบผู้ใหญ่ที่รู้จักก็ไหว้ทำทำความเคารพ
- รู้จักขอบคุณ เมื่อรับของจากผู้ใหญ่
- มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย
พัฒนาการด้านสติปัญญา
- บอกความแตกต่างของกลิ่น สี เสียง รส รูปร่าง จำแนกและจัดหมวดหมู่สิ่งของได้
- บอกชื่อ นามสกุล และอายุของตนเองได้
- พยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง
- สนทนาโต้ตอบบอกเล่าเป็นเรื่องราวได้
- สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นและแปลกใหม่
- รู้จักใช้คำถาม ( ทำไม , อย่างไร )
- เริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม
- นับสิ่งต่างจำนวนมากกว่า 10 ได้
- ทฤษฎีการเรียนรู้
- ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค มีนักทฤษฎี คือ พาฟลอฟ วัตสัน เมรีโจน
การนำความรู้จากทฤษฎีการวางเงื่อนไขไปใช้ในการสอน
> ครูสร้างบรรยากาศที่ดีในการเรียนการสอน อันเป็นการวางเงื่อนไขที่ดี
> ครูวางตัวให้ผู้เรียนเกิดความสศรัทธา เพื่อผู้เรียนจะได้รักวิชาที่ครูสอนด้วย
> ครูจัดบทเรียนให้น่าสนใจและเกิดความสนุกสนานได้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน
> สร้างความเป็นกันเองกับผู้เรียนและให้ความอบอุ่นกับผู้เรียน
> ครูจัดสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษาดี เพื่อให้ผู็เรียนรักสถานศึกษา
> ครูจักหาและใช้สื่อการสอนที่ดี เพื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
- ทฤษฎีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดค์
> ก่อนที่จะดำเนินการสอน ครูจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมและกระตุ้นผู้เรียนให้พร้อมที่จะเรียนเสียก่อน
> ความมอบหมายงาน แบบฝึกหัด หรือการบ้านให้ผู้เรียนได้ฝึกหัดกระทำเพื่อให้บรรลุตามหลักสูตร
> ใช้หลักการให้รางวัลและลงโทษเพื่อให้ผู้เรียนรู้ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"
- ทฤษฎีของ Bloom
> ความรู้จากความจำ
> ความเข้าใจ
> การประยุกต์
> การวิเคราะห์ สามารถแก้ปัญหา ตรวจสอบได้
> การสังเคราะห์ สามารถนำส่วนต่างๆ มาประกอบเป็นรูปแบบใหม่ต่างจากแบบเดิม เน้นโครงสร้างใหม่
> การประเมินค่า วัดได้ และตัดสินได้ว่าอะไรถูกหรือผิดประกอบการตัดสินบนพื้นฐานของเหตุผลแน่ชัด
- ทฤษฎีของบรูเนอร์
> ความรู้ถูกสร้างหรือหล่อหลอมโดยประสบการณ์
> ผู้เรียนมีบทบาทรับผิดชอบในการเรียน
> ผู้ดรียนเป็นผู้สร้างความหมายขึ้นมาจากแง่มุมต่างๆ
> ผู้เรียนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง
> ผู้เรียนเลือกเนื้อหาและกิจกรรมเอง
> เนื้อหาควรถูกสร้างในภาพรวม
- ทฤษฎีไทเลอร์
> ความต่อเนื่อง เปิดโอกาศให้มีการฝึกทักษะในกิจกรรมและประสบการณ์บ่อยๆ
> การจัดช่วงละดับ จัดสิ่งที่มีความง่ายไปยาก ต้องเรียงลำดับเนื้อหาก่อนหลังให้เรียนได้ลึกซึ้งขึ้น
> บูรณาการ ผู้เรียนได้มีประสบการณ์เป็นแบบแผนของปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและสิ่งแวดล้อม
- หลักการ / แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก
กีเซล
หลักการ
เชื่อว่า พัฒนาการของเด็กเป็นไปอย่างมีแบบแผนและเป็นขั้นเป็นตอนเด็กควรพัฒนาไปตามธรรมชาติ ไม่ควรเร่งหรือบังคับ / การเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นจากการ การเคลื่อนไหว การใช้ การปรับตัว เข้าสังคมกับบุคคลรอบข้าง
การพัฒนาเด็ก
จัดกิจกรมเคลื่อนไหวและจังหวะ / เด็กได้เล่นกลางแจ้ง / จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ให้ฝึกใช้มือและประสาทสัมพันธ์มือกับตา / จัดกิจกรรมให้เด็กได้ฟัง ได้พูดท่องจำคำคล้องจอง ร้องเพลง ฟังนิทาน / จัดให้เด็กได้ทำทั้งกิจกรรมเดี่ยวและกลุ่ม
ฟรอยด์
หลักการ
ประสบการณ์ในวัยเด็กส่งผลต่อบุคลิกภาพของคนเราเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หากเด็กไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเพียงพอ จะเกิดอาการชะงัก พฤติกรรมถดถอย คับข้องใจส่งผลลต่อพัฒนาการของเด็ก
การพัฒนาเด็ก
ครูเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งการแสดงออก ท่าที วาจา / จัดกิจกรรมเป็นขั้นตอน จากง่ายไปยาก / จัดสิ่งแวดล้อมที่บ้านและโรงเรียนเพื่อส่งเสริมพัฒนาบุคลิกภาพของเด็ก
อีริคสัน
หลักการ
ถ้าเด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เด็กพอใจ ประสบผลสำเร็จเด็กจะมองโลกในแง่ดี มีความเชื่อมั่นและไว้วางใจผู้อื่น / ถ้าเด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ไม่พอใจจะมองโลกในแง่ร้าย ขาดความเชื่อมั่นในตนเองและไม่ไว้วางใจผู้อื่น
การพัฒนาเด็ก
จัดกิจกรรมให้เด็กได้ประสบความสำเร็จ พึงพอใจต่อสภาพแวดล้อมของห้องเรียน เพื่อน และ ครู / จัดบรรยากาศในห้องเรียน ให้เด็กมีโอกาศสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อสภาพแวดล้อม ครูและเพื่อนๆ
เพียเจท์
หลักการ
พัฒนาการทางด้านเชาว์ปัญญาของเด็กเกิดจากการที่เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเด็ก มีการรับรู้จากสิ่งแวดล้อมใหม่ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และมีการปรับขยายประสบการณ์ดิม ความคิดและความเข้าใจให้ขยายมากขึ้น
การพัฒนาเด็ก
จัดกิจกรรมให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัส ทั้ง 5 / จัดให้เด็กฝึกฝนทักษะ การสังเกต การจำแนก เปรียบเทียบ / จักกิจกรรมให้เด็กมีโอกาศคิดหาเหตุผลเลือกและตัดสินใจสิ่งต่างๆด้วยตนเอง / จัดให้เด็กได้เรียนรู้จากสิ่งใกล้ตัวไปสู่เรื่องไกลตัว และมีลักษณะที่เป็นรูปธรรม
ดิวอี้
หลักการ
เด็กเรียนรู้โดยการกระทำ
การพัฒนาเด็ก
จัดกิจกรรมให้เด็กประสบผลสำเร็จพึงพอใจต่อสภาพแวดล้อมของห้องเรียน เพื่อน ครู / จัดบรรยากาศในห้องเรียนให้เด็กได้มีโอกาศสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อครู และเพื่อนๆ
สกินเนอร์
หลักการ
ถ้าเด็กได้รับการชมเชย และประสบความสำเร็จในการทำกิจกรรม เด็กสนใจที่ทำต่อไป / เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ไม่มีใครเหมือนใคร
การพัฒนาเด็ก
ให้แรงเสริม เช่น ชมเชย ชื่นชม เมื่อเด็กทำกิจกรรมประสบผลสำเร็จ / ไม่นำเด็กมาเปรียบเทียบแข่งขันกัน
เปสตาสอสซี่
หลักการ
ความรักเป็นพื้นฐานสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาเด็ก ทั้งด้านรางกายและสติปัญญา / เด็ฏแต่ละคนแตกต่างกัน ทั้งด้านความสนใจความต้องการและระดับความสามารถในการเรียน / เด็กไม่ควรถูกบังคับให้เรียนรู้ด้วยการท่องจำ
การพัฒนาเด็ก
จัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม ให้ความรักให้เวลาและให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์
เฟรอเบล
หลักการ
ควรส่งเสริมพัฒนาการตามธรรมชาติของเด็กด้วยการกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างเสรี / การเล่นเป็นการทำงานและการทำงานและการเรียนรู้ของเด็ก
การพัฒนาเด็ก
จัดกิจกรรมเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างเสรี
เอคายน์
หลักการ
การเร่งเด็กให้เรียนรู้แต่เล็กเป็นอันตรายต่อเด็ก / เด็กควรมีโอกาศเล่นและเลือกกิจกรรมการเล่นด้วยตนเอง
การพัฒนาเด็ก
จัดบรรยากาศในห้องเรียนให้เด็กมีโอกาสเล่นและเลือกกิจกรรมการเล่นด้วยตนเอง
- การพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย 3ขั้นดังนี้
- การเรียนรู้อย่างมีความสุข
- การเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง = ประสาทสัมผัททั้ง 5 กิจกรรมประจำวัน การเล่นการแก้ไขปัญหา คิดสร้างสรรค์ เป็นต้น
- การเรียนรู้แบบองค์รวมที่คลอบคลุมทุกด้าน
คำศัพท์
Developmen = พัฒนาการ
Principles = หลักการ
Activities = กิจกรรม
Intelligence = สติปัญญา
Independent = อิสระ
>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<
รูปภาพประกอบ
ในงาน
สรุปใบงาน
.........................................................................................
การประยุกต์ใช้
- เมื่อเรารู้ลักษณะการเรียนรู้ของเด็กและลักษณะการเรียนรู้ของเด็กเรานนั้นจะสามารถจัดกิจกรรมให้แก่เด็กได้อย่างถูกต้อง
- การรู้แนวคิดหลักทฤษฎีต่างๆ สามารถนำแนวคิดตางๆนี้มาปรับใช้สำหรับการสอนได้
การประเมิน
การประเมินตนเอง
ตั้งใจในการสรุปเมื่อได้รับมอบหมายงานก็มีความตั้งใจที่จะทำให้เส็จด้วยความตั้งใจ
การประเมินเพื่อน
เพื่อนๆนั้นมีความตั้งใจในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย
การประเมินอาจารย์
อาจารย์มีความตั้งใจที่จะให้นักศึกษาได้รับมีความรู้ ถึงแม้ตัวของอาจารย์จะไม่ได้มาสอน แต่ก็ยังมีใบความรู้มาให้นักศึกษานั้นได้ศึกษาด้วยตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น